บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน 12, 2021

วิธีรักษาเล็บขบ...ปัญหาปวดจี๊ดเกินบรรยายของปลายนิ้ว

รูปภาพ
   ใครไม่เคยเป็น "เล็บขบ" ไม่รู้หรอกว่ามันทรมานขนาดไหน จะย่างกรายไปทางไหนก็แสนจะเจ็บปวด ยิ่งหนองแตกยิ่งปวดหนักเป็นสองเท่า บางคนเป็นหนัก ๆ ถึงกับต้องถอดเล็บ โอ้ย...แค่คิดก็ทรมานแล้ว  ใครที่เป็นเล็บขบอยู่ต้องหาวิธีรักษาแล้วล่ะค่ะ ส่วนใครที่ไม่อยากเป็นเล็บขบ ต้องอ่าน ! เล็บขบเกิดจากอะไร           ใคร ๆ ก็รู้ใช่ไหมว่า "เล็บ" มีหน้าที่ป้องกันอันตรายให้นิ้ว และส่วนนี้จะไม่มีเส้นประสาทอยู่ ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเกิดโรคขึ้นกับเล็บ แต่ถ้าเกิดโรคนั้นกินเข้าไปถึงผิวหนังแล้วล่ะก็ "เล็บ" ก็สร้างความปวดร้าวให้เจ้าของเล็บสุด ๆ เลยล่ะ  โดยเฉพาะ "เล็บขบ" (Unguis Incarnatus) โรคเล็บที่เกิดขึ้นได้บ่อยมาก ๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิด "เล็บขบ" ได้ก็คือ            1. การใส่รองเท้าที่บีบมากเกินไป  เพราะจะทำให้เนื้อที่อยู่ด้านข้างของเล็บถูกบีบเข้ามา เล็บก็เลยไปกดเนื้อด้านข้าง เมื่อเล็บงอกมันก็จะงอกลึกลงไปในเนื้อ ทำให้รู้สึกเจ็บปวด นอกจากนี้ การใส่รองเท้าส้นสูงเกินไป ปลายเท้าแหลมเกินไป ก็ทำให้เท้าถูกบีบจนเล็บงอกตามปกติไม่ได้ ต้องกินเข้าไปในเนื้อ            2

หูดหงอนไก่...ของฝากตัวร้ายที่ติดต่อได้จากเพศสัมพันธ์

รูปภาพ
    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่น่ากลัวไม่ใช่มีแค่ "โรคเอดส์", "โรคซิฟิลิส" และ "หนองใน" เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายโรคที่แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ถ้าใครเป็นขึ้นมาก็ทำลายความมั่นใจไปได้มากทีเดียว อย่างเช่น  "หูดหงอนไก่" โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ยังพบได้มากในปัจจุบัน แถมยังสามารถกลับมาเป็นได้ซ้ำ ๆ  ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าไม่มีใครอยากเป็นแน่ ๆ กระปุกดอทคอม จึงขอนำข้อมูลเรื่อง "หูดหงอนไก่" มาบอกกันตรงนี้ค่ะ โรคหูดหงอนไก่ คืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร           หูดหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส (Human Papilloma Virus) หรือ HPV           ฟังชื่อ HPV อาจจะรู้สึกคุ้น ๆ ว่านี่เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกใช่ไหมนะ ซึ่งก็ถูกต้องแล้วค่ะ  เพราะไวรัส HPV ที่ทำให้เกิดหูดนี้เป็นตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกัน แต่เนื่องจากไวรัส HPV มีหลายสายพันธุ์ จึงทำให้เกิดหูด หรือโรคต่าง ๆ กันไป  หากเป็นหูดหงอนไก่ก็อาจจะเป็นสายพันธุ์ 6 หรือ 11 แต่ถ้าใครเป็นหูดหงอนไก่จ

วิธีรักษาหูด โรคติดต่อทางผิวหนังจากเชื้อไวรัส HPV

รูปภาพ
   หูดเป็นโรคผิวหนังที่เกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย เกิดกับคนทุกวัย และที่น่ากังวลคือเป็นโรคติดต่อที่แค่สัมผัสก็เป็นได้แล้ว           เมื่อพูดถึง หูด  หลายคนจะนึกไปถึงหูดหงอนไก่ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ที่จริงแล้วหูดเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังที่เกิดได้บนผิวหนังทุกส่วนของร่างกายเราเลยล่ะค่ะ และเมื่อเป็นหูดก็จะรู้สึกรำคาญ ต้องหาวิธีรักษาหูดกันใหญ่ ดังนั้น วันนี้เราขอพามารู้จักหูด  โรคติดต่อ ทางผิวหนัง โรค นี้กัน พร้อมวิธีรักษาหูดให้หายด้วย หูด เกิดจากอะไร           หูด ภาษาอังกฤษ คือ Warts จัดเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังชนิดหนึ่ง โดยสาเหตุของหูดก็เกิดจากเชื้อไวรัส  HPV  (Human Papilloma Virus) เชื้อไวรัสตระกูลเดียวกับสาเหตุของโรค มะเร็งปากมดลูก  เพียงแต่เป็นเชื้อไวรัส HPV คนละสายพันธุ์กัน เพราะ HPV มีเป็นร้อยสายพันธุ์ แต่มีราว ๆ 40 สายพันธุ์ที่ก่อโรคในมนุษย์ได้ และโรคหูดก็เป็นหนึ่งในนั้น            -  HPV ไวรัสตัวร้าย บ่อเกิดมะเร็งปากมดลูก       หูดมีกี่ชนิด          หูดมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ไวรัสและบริเวณที่เป็น โดยสามารถแบ่งชนิดหูดได้ ดังนี้       * หูดธรรมดา         

วิธีรักษาตาปลาที่เท้าง่าย ๆ ไม่ต้องทนรำคาญอีกต่อไป

รูปภาพ
    ตาปลา  ก้อนหนังกำพร้าที่สร้างความรำคาญ และอาจสร้างความเจ็บปวดให้ใครหลายคน มาดูวิธีรักษาที่แสนจะง่ายจากของใกล้ตัวในบ้าน อยากให้เท้าเรียบเนียนสวยต้องรีบทำตาม           ตาปลา หนึ่งใน โรคผิวหนัง  ที่แม้จะไม่มีความอันตราย แต่ก็สร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อยเพราะเมื่อเป็นแล้วก็อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บได้ขณะที่เดินหรือสวมใส่รองเท้า ซึ่งวิธีรักษาเจ้าตาปลานี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก่อนที่จะไปดู วิธีรักษาตาปลา  ลองมาทำความรู้จักตาปลากันหน่อยดีกว่า * ตาปลาเกิดจากอะไร แตกต่างจากหูดอย่างไร           ตาปลา หรือที่มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Corn เป็นก้อนของหนังขี้ไคลที่หลายคนมักสับสนกับ โรคหูด  แต่ตาปลาเกิดจากการเสียดสีหรือกดทับของผิวหนังเรื้อรังเ­­ป็นเวลานาน เช่น การเสียดสีกันระหว่างเท้าและร­องเท้า บริเวณนิ้วเท้าที่กระดูกนิ้วเท้าเสียดสีกัน หรือด้านบนหลังเท้าที่เกิดจากการสวมรองเท้าหัวแบนเป็นประจำ ซึ่งแตกต่างจากหูดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส สามารถเกิดบริเวณใดก็ได้ที่ติดเชื้อ ไม่จำเป็นต้องมีการเสียดสี และหากลองใช้มีดฝานตาปลาบาง ๆ จะไม่พบจุดเลือดออกเหมือนหูด เพราะตาปลาจะเป็นหนังแข็ง ๆ ที่ไม่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงเ