บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม 7, 2021

ห่อหมกเขียวหวานปลากะพง

รูปภาพ
  วันนี้มาแบ่งปันสูตรห่อหมกเขียวหวานปลากะพงค่ะ สูตรนี้ทำง่ายไม่ต้องโขลกเครื่องแกงให้ยุ่งยาก หอม อร่อย มากเลยค่ะ แค่เห็นชื่อก็น่าลองแล้วใช่ไหมคะ ตามมาดูขั้นตอนกันเลย *ส่วนผสม -เนื้อปลากะพง 300 กรัม -ไก่สับ 200 กรัม -หน่อไม้ 200 กรัม -พริกแกงเขียวหวาน 100 กรัม -ไข่ไก่ 2 ฟอง -กะทิเรียลไทย 400 มล -น้ำตาลปี๊บ 2 ชช -น้ำตาลทราย 1 ชช -น้ำปลา 1 ชต -ใบโหระพา -ใบมะกรูดซอย -พริกชี้ฟ้าแดง **ขั้นตอน 1.ผสมพริกแกงเขียวหวาน เนื้อปลากะพง ไก่สับ ไข่ไก่ กะทิเรียลไทย เข้าด้วยกัน 2.ปรุงรสด้วยน้ำตาลปิ๊ป น้ำตาลทราย น้ำปลา..ใส่หน่อไม้ ใบมะกรูดซอย ใบโหระพาซอยลงไป คนให้เนียนเข้ากันดี 3.ตักเนื้อห่อหมกใส่กระทงใบตอง..แล้วนำไปนึ่ง ใช้ไฟกลางประมาณ 15 นาที 4.ราดหน้าด้วยกะทิเรียลไทยนึ่งต่อ 2-3 นาที เป็นอันเสร็จ.. โรยด้วยใบมะกรูดซอย พริกชี้ฟ้าแดงซอย พร้อมอร่อยได้เลยเจ้าค่ะ . น่าทานมากๆเลยค่ะสูตรนี้ แถมรสชาติยังหอม อร่อย หลมกล่อมสุดๆ ทำกินเองเนื้อปลาแน่นๆ เพื่อนๆลองทำดูนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก  Alice Kiatwaranalin  สมาชิกเว็บcookpad

แกงชักส้ม

รูปภาพ
  วันนี้มีเมนูกับข้าวไทยโบราณที่อร่อยแต่หาทานยากมาแนะนำกันค่ะ “แกงชักส้ม” วิธีทำเหมือนทำแกงส้มค่ะ แต่จะใส่น้ำมะกรูดด้วย จะมีรสเปรี้ยวและหอมกลิ่นมะกรูดด้วยค่ะ แกงจะมีรสเปรี้ยวนำ เค็มหวานตาม ทานคู่กับข้าวสวยๆร้อนๆ หอมอร่อยมาก ต้องขอข้าวเพิ่มตลอดค่ะ *ส่วนผสม 1.ปลาช่อน (ล้างทำความสะอาด ขยำเกลือหรือน้ำส้มสายชู ล้างให้หมดเมือก หั่นชิ้นตามขวาง) 2.ผักบุ้งไทย 3.พริกแกงส้ม – พริกแห้งเม็ดใหญ่ (แช่น้ำให้นิ่ม แล้วบีบน้ำออก) – หอมแดง – กระเทียม – กะปิ – ดอกเกลือ – เนื้อปลา (นำชิ้นหางปลาไปต้ม แล้วแกะเอาแต่เนื้อ) โขลกส่วนผสมรวมกัน 4.น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลโตนด 5.น้ำมะกรูด และลูกมะกรูด 6.ใบมะกรูดฉีก *วิธีทำ – นำน้ำใส่หม้อขึ้นตั้งเตา พอเดือด ใส่พริกแกงลงไป พอเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก ใส่ผักบุ้งลงไป ต้มให้สุกและนิ่มลง – ใส่ปลาลงไป ใช้ทัพพีกดให้จมน้ำแกง (ห้ามคน เพราะจะทำให้คาว) พอปลาสุกดี ใส่น้ำมะกรูด และลูกมะกรูดลงไป ต้มสักครู่ ใส่ใบมะกรูดฉีก แล้วยกลงจากเตา – ตักลูกมะกรูดออก เพราะถ้าทิ้งไว้ จะทำให้มีรสขมนิดๆค่ะ * บางคนก็จะใส่กระชาย ลงไปตอนโขลกพริกแกงด้วยนิดหน่อยค่ะ คนสมัยก่อนเขาก

ผัดเผ็ดปลาเผาะใบยี่หร่า

รูปภาพ
  เมนู “ผัดเผ็ดปลาเผาะใบยี่หร่า” นั่นเอง ยี่หร่าหรือบางพื้นที่เรียก โหระพาช้าง กะเพราควาย เป็นสมุนไพรกลิ่นหอม รสเผ็ดร้อน เมื่อนำมาผัดกับปลาเผาะก็จะดับกลิ่นคาว ให้รสชาติอร่อยแบบจัดจ้าน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากจริงๆ มีสรรพคุณมากมาย(ท้ายบทความ) พร้อมแล้วไปดูวิธีการทำ ผัดเผ็ดปลาเผาะใบยี่หร่า กันได้เลยจ้า ส่วนผสม 1. ปลาเผาะ (ปลาแม่น้ำโขง อยู่ในวงศ์ปลาสวาย แต่เนื้อไม่มันมากค่ะ) 2. พริกแกงเผ็ด 3. มะเขือเปาะ 4. ใบยี่หร่า 5. พริกสด 6. น้ำตาลปี๊บ 7. น้ำปลา 8. น้ำปูนใส 9. เกลือ 10. น้ำมันสำหรับผัด วิธีทำ – ล้างทำความสะอาดปลา แช่น้ำปูนใส 10 นาที ล้างให้สะอาด แล่เอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นเล็ก เตรียมไว้ – เด็ดใบยี่หร่าเตรียมไว้ ส่วนมะเขือล้างแล้วหั่นแช่น้ำเกลือไว้ เพื่อไม่ให้ดำ – ตั้งกะทะผัดพริกแกงให้หอม ใส่เนื้อปลาลงผัด พอเริ่มสุก ใส่มะเขือ เติมน้ำลงไป 1 ทัพพี ผัดพอมะเขือเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ใส่พริกสด และใบยี่หร่า ผัดพอผักสลด ตักใส่จานทานกับข้าวสวยร้อนๆ ค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างกับเมนู “ผัดเผ็ดปลาเผาะใบยี่หร่า” เพื่อนๆ อย่าลืมเอาไปทำทานดูนะคะ รับรองอร่อยเหาะติดใจ ไม่ผิดหวังแน่นอน ที่สำคัญ

“โอนีแปะก๊วย” สูตรขนมมงคล

รูปภาพ
  โอนีแปะก๊วย ถือว่าเป็นขนมหวานมงคลของคนจีน เรามักจะได้เห็นได้ทานกันในโต๊ะจีนงานมงคลต่างๆ เช่น งานแต่งงานบวช หน้าตาและรสชาติถือว่าดูดีมีชาติตระกูลเลยก็ว่าได้ วันนี้ก็เลยเอาสูตรมาฝาก เผื่อเพื่อนสมาชิกอยากลองทำกันที่บ้าน ไม่ต้องรองานมงคลเราก็จะได้กินโอนีแปะก๊วยได้ทุกเมื่อที่ต้องการอยากจะกินค่ะ *ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ( 1.ข้าวเหนียวมูน 2.เผือกกวน 3.พุทรา+ แปะก๊วยเชื่อม) *ข้าวเหนียวมูน 1.ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วย (แช่น้ำก่อนนึ่ง 4 ชม.) 2.น้ำกะทิ 1 ถ้วยครึ่ง 3.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย 4.เกลือป่น 1/3 ชช. 5.ใบเตย 3 ใบ วิธีทำ – นึ่งข้าวเหนียวให้สุก(ใส่ใบเตยลงไปด้วย) – ผสมกะทิ น้ำตาล เกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟพอเดือด ยกลง ใส่ข้าวเหนียวคนให้เข้ากัน ปิดฝาพักไว้ 15 นาที แล้วใช้ทัพพีคนให้ทั่วอีกครั้ง ปิดฝาพักไว้อีก 10 นาที ก็ใช้ได้แล้วค่ะ **เผือกกวน  1.เผือกนึ่งบด 3 ถ้วย 2.น้ำกะทิ 1 ถ้วย 3.น้ำตาลทราย ½ ถ้วย 4.เกลือป่นปลายช้อน 5.น้ำเปล่า ½ ถ้วย วิธีทำ ผสมน้ำกะทิ น้ำตาล เกลือ และน้ำเปล่า นำขึ้นตั้งเตา คนให้น้ำตาลละลายหมด ใส่เผือกบดลงไปกวน ใช้ไฟกลางๆ กวนจนเผือกเหนียวได้ที่ ยกลงพักไว้ ***พุทรา แป

กุยช่ายทอด+น้ำจิ้มรสเด็ด

รูปภาพ
  วันนี้แอดมินตื่นเช้ากว่าปกติ นั่งคิดอยู่นานว่าจะนำเสนอเมนูอร่อยอะไรดี ที่ไม่ได้กินนานแล้ว ก็เลยมาลงตัวที่ “กุยช่ายทอด” ค่ะ เพราะไม่ได้กินขนมกุยช่ายทอดแบบนี้นานแล้ว ไม่ค่อยมีร้านทำขาย วันนี้เลยต้องทำเอง ปรากฏว่าสูตรนี้อร่อยมากกินคนเดียวหมดจานเลยค่ะ ตามมาค่ะ..ไปดูสูตรและส่วนผสมของเจ้า “กุยช่ายทอด” รสเลิศกันเลยจ้า ส่วนผสมกุยช่าย 1.ตัวแป้ง – แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย – แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ – แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ – น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา – เกลือปลายช้อน – น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ – น้ำสะอาด 1+1/4 ถ้วย 2.ไส้ขนม – กุยช่าย 3 ขีด – กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ – ซีอิ้วขาว – น้ำมันสำหรับผัด 1/2 ช้อนโต๊ะ – เกลือปลายช้อน – เบกิ้งโซดา 1/3 ช้อนชา. (ใส่เพื่อให้กุยช่ายนิ่ม เวลาสุกแล้วจะมีสีเขียวสวย และลดกลิ่นฉุนของกุยช่าย สมัยก่อนจะใช้แป้งกี ไม่แน่ใจว่าตัวเดียวกันหรือเปล่า เพราะเดี๋ยวนี้ไม่มีแป้งกีขายกันแล้วค่ะ) 3.น้ำมันสำหรับทอด 4.น้ำจิ้ม – น้ำตาล – เกลือ – น้ำส้มสายชู – พริกสด วิธีทำ 1.ทำไส้ขนม – หั่นกุยช่ายเป็นชิ้นเล็ก ใส่เกลือ และเบกิ้งโซดา ลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ 15 นาที – ผัดกระเทียมกับน้ำมันให้หอม ใส่กุย

“พริกกับเกลือ” โรยข้าวสวยร้อนๆ หอมอร่อยมาก

รูปภาพ
  พริกกับเกลือ หรือ พริกกะเกลือ อาหารไทยโบราณ หนึ่งในอาหารทรงโปรดของรัชกาลที่ 9 ที่โปรดเมนูนี้ ก็เพราะเป็นอาหารแห้งทำง่าย สะดวกต่อการพกพาในการเสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดาร  พริกกับเกลือโบราณ ไม่ใช่ “พริกเกลือ” ที่ใช้จิ้มกับผลไม้นะคะ แต่เป็นการถนอมอาหารของคนโบราณ ที่นิยมทำเป็นกับข้าวในช่วงต้องเดินทาง เพราะเก็บรักษาไว้ทานได้หลายวันค่ะ *ส่วนผสม 1.มะพร้าวขูดขาว 2.น้ำตาลโตนด 3.ดอกเกลือ **วิธีทำ – คั่วมะพร้าวให้เหลืองกรอบ นำไปโขลกให้แตกมัน (สังเกตดูจะมีน้ำมันติดที่สากที่ใช้โขลกค่ะ) หลังจากนั้น ใส่ดอกเกลือและน้ำตาลลงไป โขลกให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะมีฝาปิด ใช้โรยข้าวสวยร้อนๆ หอมอร่อยค่ะ . * ควรโขลกส่วนผสม ขณะมะพร้าวคั่วกำลังร้อนอยู่ เพื่อที่เวลามะพร้าวแตกมัน แล้วใส่เกลือและน้ำตาลลงไปโขลกรวมกัน จะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีค่ะ * ใช้ที่ขูดมะพร้าวมือแมวขูดเองก็ได้ค่ะ ระวังอย่าให้ขูดถึงเปลือกสีดำ ซื้อที่ตลาดก็มีค่ะ บอกเขาว่ามะพร้าวขูดขาว เขาจะเลาะเปลือกดำๆออกก่อนนำไปขูด ตอนคั่ว รอกระทะร้อน แล้วใส่มะพร้าวลงไปคั่ว ใช้ไฟกลางๆค่ะ คั่วไปเรื่อยๆ จนเหลืองกรอบ ก็ใช้ได้ เทใส่ครก แล้วโขลกเลยค่ะ

ไข่ตุ๋นพริกหวาน

รูปภาพ
  ในวันฝนตกชุ่มฉ่ำแบบนี้ แอดมินรู้สึกอยากกินไข่ตุ๋นขึ้นมา แต่จะทำสูตรเดิมๆ ก็ดูจะธรรมดาไป เลยไปหยิบเอาสูตร “ไข่ตุ๋นพริกหวาน” ของสมาชิกคนเก่ง คุณ “Supaporn Kumnodnae” มาชวนเพื่อนๆทำกัน ซึ่งสูตรนี้ รสชาติอร่อยมาก วิธีทำก็ง่ายมากด้วย พร้อมแล้วเราไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยจ้า *ส่วนผสม 1. พริกหวาน 1 ลูก 2. ไข่ไก่ 1 ฟอง 3. กุ้งสด 4. กระเทียมเจียว 5. ซีอิ๊วขาว 6. พริกไทยป่น 7. ต้นหอม ผักชี **วิธีทำ – ล้างพริกหวาน คว้านไส้เอาเมล็ดออกให้หมด – ตีไข่ไก่ให้ฟู ใส่ซีอิ๊วขาว พริกไทย น้ำเปล่า คนส่วนผสมให้เข้ากัน นำไปใส่ในพริกหวานที่เตรียมไว้ – นำไปนึ่งในซึ้งที่น้ำเดือด 15 นาที (ใช้ไฟแรงใน 5 นาทีแรก แล้วลดไฟลงกลางๆค่อนข้างอ่อนอีก 10 นาที) ใส่กุ้งสด นึ่งไฟแรงต่ออีก 5 นาที พอกุ้งสุกเป็นใช้ได้ค่ะ เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ จัดใส่จานโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี หน้าตาดูดีงาม รสชาติหอมอร่อยทุกคำ อย่าลืมนำไปทดลองทำกันด้วยนะ ถ้าคิดว่ามีประโยชน์โปรดส่งต่อเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยจ้า ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลสูตรและภาพจาก.Supaporn Kumnodnae

เงาะสอดไส้สับปะรด

รูปภาพ
  เนื่องจากช่วงนี้เห็นมีเงาะกำลังสุกและวางขายแทบทุกมุมเมือง แอดมินเลยมีเมนูของหวานจากเงาะอร่อยแบบไทยๆ มาแนะนำ ได้แก่เมนู “เงาะสอดไส้สัปประรด” นั่นเอง ซึ่งทำง่ายๆ หอมหวานอร่อยทานได้ทุกคน พร้อมแล้วเราไปดูวิธีการทำกันเลยจ้า *ส่วนผสม – เงาะ 1 กก. – สับปะรด 1 ลูก *ขั้นตอน – หั่นเงาะแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด 1 รอบค่ะ เพื่อล้างเศษสิ่งสกปรกที่อาจจะติดมาตอนหั่นเปลือกทิ้ง – ใช้มีดเล็กๆ โค้งๆ แบบนี้ ซื้อตามร้าน 60 บาท ใช้คว้านง่ายดี – จิ้มลงไปจากที่หัว – จับตัวมีดไว้เฉยๆ จับเงาะแน่นๆ แล้วค่อยๆหมุนเงาะไปรอบๆ ใครไม่ถนัดใช้มีดค่อยๆแซะก็ได้ค่ะ แต่เราชอบหมุนเงาะ อาจจะออกมาไม่สวยเท่าใช้มีด ค่อยๆลองทำเดี๋ยวก็คล่องมือได้ไวดี – ออกมาแล้ว นำไปแช่ตู้เย็นรอไว้ก่อน – จากนั้นมาหั่นสับปะรด – นำเงาะที่แช่เย็นไว้ออกมาเพื่อเตรียมสอดไส้ – เอาตรงสามเหลี่ยมของสับปะรด จิ้มลงไปในรูจะจิ้มง่ายค่ะ – เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะกับเมนู “เงาะสอดไส้สับปะรด” ที่นำมาฝาก ขั้นตอนก็ง่าย รสชาติก็อร่อยด้วย หวังว่าจะเป็นไอเดียดีๆ ให้ทุกท่านนำไปทดลองทำทานในครอบครัว หรือท่านใดจะนำไปต่อยอดทำขายเพื่อสร้างรายได้เสริม