แกงไทยโบราณ “แกงบวน”
วันนี้มีเมนูกับข้าวอร่อยมาฝากอีกแล้ว “แกงบวน” แกงไทยโบราณ ที่เดี๋ยวนี้หากินได้ยากค่ะ สมัยก่อนก็จะได้กินตอนที่มีงานบุญ หรืองานมงคล เพราะใช้วัตถุดิบในการปรุงหลายอย่าง ต้องทำไว้ตั้งแต่ตอนเย็นก่อนวันงาน แกงค้างคืนไว้ เครื่องจะเข้าเนื้ออร่อยค่ะ แกงหม้อนี้ทำไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็นค่ะ กว่าจะแกงเสร็จก็เกือบ 4 ทุ่ม ตอนเช้าอุ่น แล้วค่อยใส่ใบมะกรูด ตะไคร้ซอย พริกสด ได้ทำใส่ปิ่นโตเพล ดังตั้งใจเลยค่ะ
*ส่วนผสม
1.เครื่องในหมู และหมูสามชั้น
– เครื่องในรวมกัน 1 กก.(วันนี้ใช้ ตับ ไส้อ่อน หัวใจ) หมูสามชั้น 3 ขีด
– เครื่องในจะใส่ปอด กระเพาะ ม้าม ด้วยก็ได้ค่ะ
2.เครื่องแกง
– หอมแดง 8 หัว
– กระเทียม 2 หัว
– ข่าซอย 2 ชต. (ใช้ข่าไม่อ่อนหรือแก่เกินไป)
– ตะไคร้ซอย 2 ชต.
– เม็ดพริกไทย 1 ชช.
– กะปิ 1 ชช.
– เนื้อปลาอินทรีย์เค็ม 2 ชต.
– เนื้อปลาย่าง 4 ชต.
3.น้ำคั้นใบไม้ (จะใช้ใบมะขวิด ใบขี้เหล็ก ใบตะไคร้ ใบข่า แทนก็ได้ค่ะ )
– ใบมะตูม 2 ถ้วย โขลกแล้ว ยีกับน้ำ กรองใส่ถ้วยไว้
– ใบย่านาง 20 ใบ โขลกแล้วยีกับน้ำ กรองใส่ถ้วยไว้
4.เครื่องเทศ ใส่หลังแกงเสร็จ ใส่ก่อนยกลงจากเตา
– พริกเหลืองหั่น 6 เม็ด
– ใบมะกรูดฉีก 8 ใบ
– ตะไคร้ซอยบางๆ 4 ชต. (ใช้ตะไคร้ค่อนข้างอ่อน)
5.เครื่องปรุงรส
– น้ำตาลปี๊บ 2 ชต.
– น้ำปลา 1 ชช.
– ดอกเกลือ 1/2 ชช.
– น้ำมะขามเปียก 4 ชต.
**วิธีทำ
1. คั่วหอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ให้หอม แล้วโขลกรวมกันกับเม็ดพริกไทย ให้ละเอียด ใส่กะปิ เนื้อปลาอินทรีย์ และปลาย่าง โขลกให้เข้ากัน
2.เตรียมส่วนเนื้อสัตว์
– หมูสามชั้น และตับ ล้างให้สะอาด หั่นชิ้นเล็กพอดีคำ
– ไส้อ่อน ล้างด้วยน้ำส้มสายชู หรือน้ำปูนใส ให้สะอาด นำไปต้มใส่เกลือและข่า แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก
– หัวใจ ล้างให้สะอาด ต้มรวมกับไส้อ่อน แล้วหั่นชิ้นพอดีคำ
3.นำเครื่องแกงที่โขลกไว้ ผัดให้หอม แล้วใส่หมูสามชั้นลงผัดพอสุก ใส่ตับ ไส้อ่อน และหัวใจ ลงผัดให้เข้ากันดี ใส่น้ำใบมะตูม และน้ำใบย่านาง พอเดือด ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ดอกเกลือ และน้ำมะขามเปียก รอให้เดือดดี
– ลดไฟลงเคี่ยว 20 นาที แล้วใส่ พริก ตะไคร้ ใบมะกรูด คนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา
* แกงจะมีลักษณะนำ้ไม่มาก รสหวาน เค็ม เปรี้ยว จะมีกลิ่นหอมของปลาย่าง และไม่มีกลิ่นคาวของเครื่องในสัตว์
.
เป็นอย่างไรบ้างกับเมนูที่นำมาฝาก เพื่อนสมาชิกลองทำกันดูนะคะ นอกจากจะได้เมนูแกงอร่อยแล้ว ก็เพื่อเป็นการอนุรักษ์อาหารไทยไว้ด้วยค่ะ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ โปรดส่งต่อเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลสูตรและภาพจาก.Supaporn Kumnodnae
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น